"ไอดีซี" จับตาวิกฤติฮาร์ดดิสก์พ่นพิษ "ผู้ผลิตพีซี" ถูกควบรวม เหตุรายเล็กเสียเปรียบผู้ผลิตรายใหญ่กว่า-ตลาดแข่งขันสูง
"ไอดีซี" จับตาวิกฤติฮาร์ดดิสก์พ่นพิษ "ผู้ผลิตพีซี" ถูกควบรวม เหตุรายเล็กเสียเปรียบผู้ผลิตรายใหญ่กว่า-ตลาดแข่งขันสูง พร้อมปรับลดคาดการณ์ยอดขายพีซีต้นปีหน้าร่วงกว่า 20% หลังส่งสัญญาณขาดตลาดรุนแรงลากยาวถึงไตรมาสแรกปีหน้า
รายงานข่าวจากบริษัทวิจัยไอดีซี ระบุว่า ปัญหาโรงงานผลิตฮาร์ดดิสก์ที่ถูกน้ำท่วมในไทยมีแนวโน้มจะทำให้สินค้าขาดตลาดรุนแรง และยังส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตพีซี ซึ่งจำเป็นต้องใช้ฮาร์ดดิสก์เป็นส่วนประกอบสำคัญ โดยเฉพาะผู้ผลิตพีซีรายเล็กที่ต้องสูญเสียลูกค้าระดับองค์กรให้กับผู้ผลิตรายใหญ่กว่า และอาจนำไปสู่การควบรวมกิจการระหว่างผู้ผลิตด้วยกันมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูง
นายไบรอัน มา รองประธานฝ่ายงานวิจัยตลาดอุปกรณ์ต่อพ่วงประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกของไอดีซี เผยว่า ตลาดพีซีในเอเชียแปซิฟิก (ยกเว้นญี่ปุ่น) อาจจะได้รับผลกระทบมากกว่าตลาดในภูมิภาคอื่นๆ เพราะยอดขายของพีซีที่ประกอบตามร้านมีปริมาณสูงในภูมิภาคนี้
“การซื้อพีซีภายในไทยเอง ยังเป็นคำถามสำคัญ เพราะมีปัจจัยเกี่ยวข้องมากมาย ตั้งแต่ความสามารถขนส่ง กระจายสินค้าไปจนถึงแผนการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ แต่เราเคยเห็นตัวอย่างในอดีตหลายครั้ง ซึ่งตลาดในไทยมักฟื้นตัวจากวิกฤติการณ์ได้เร็ว และก็หวังว่าจะเห็นการฟื้นตัวแบบนั้นในครึ่งปีหลังของปีหน้า" นายมา กล่าว
ขณะที่ผลการคาดการณ์ตลาดพีซีล่าสุดของไอดีซี ระบุว่า สถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ในไทยส่งผลกระทบรุนแรงต่ออุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ โดยโรงงานผลิตได้รับความเสียหายหนักจนต้องหยุดการผลิตถึง 6 แห่ง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อยอดการซื้อขายพีซีในช่วงแรกของปี 2555
ไอดีซี คาดว่า ฮาร์ดดิสก์จะเริ่มขาดตลาดรุนแรงตั้งแต่กลางเดือน พ.ย.นี้ต่อเนื่องไปยังไตรมาสแรกของปีหน้า (2555) และมีแนวโน้มส่งผลต่อยอดการผลิตพีซีในไตรมาสดังกล่าวต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าถึง 20%
ส่วนไตรมาส 4 นี้ ผู้ผลิตพีซีส่วนใหญ่ยังมีฮาร์ดดิสก์ที่สำรองไว้ก่อนหน้านี้ ทำให้ยอดการผลิตในช่วงเวลาดังกล่าวจะได้รับผลกระทบน้อยกว่า 10%
นอกจากนี้ราคาฮาร์ดดิสก์ยังมีแนวโน้มปรับสูงขึ้น เพราะปริมาณสินค้าลดลง ทั้งต้นทุนในการผลิตสูงขึ้นเนื่องจากราคาวัตถุดิบ, ค่าใช้จ่ายในการเร่งขนส่งสินค้า และการย้ายฐานผลิตชั่วคราว
"อุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์จะเริ่มฟื้นตัวในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า และราคาของฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์จะคงที่ภายในเดือนมิถุนายน โดยสิ่งต่างๆ จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในครึ่งหลังของปี 2555"
ขณะที่นายจอห์น ริดนิ่ง รองประธานฝ่ายงานวิจัยตลาดฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์และเซมิคอนดัคเตอร์ของไอดีซี เผยว่า ผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์มีแนวโน้มให้ความสำคัญการจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าที่มียอดสั่งซื้อสูงๆ ผู้ผลิตพีซีรายใหญ่ ขณะเดียวกัน เน้นการจัดส่งสินค้าที่มีกำไรสูง เช่น สินค้าที่เป็นส่วนประกอบของเซิร์ฟเวอร์และสตอเรจระดับองค์กรเป็นอันดับแรกๆ
“เราน่าจะได้เห็นวิธีการจัดการด้านการผลิตและการทำข้อตกลงกับลูกค้าแบบต่างๆ ที่น่าสนใจ เนื่องจากผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์จะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อฟื้นฟูกำลังการผลิต และในขณะเดียวกันจะต้องวางแผนที่จะพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสด้วย”นายริดนิ่ง กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น